WELLNESS : การตรวจโครโมโซมตัวอ่อนคืออะไร ทำไมคนอยากมีลูกถึงนิยมทำกัน
ใครที่กำลังวางแผนทำ IVF อาจจะได้ยินคำว่า “การตรวจโครโมโ […]

ใครที่กำลังวางแผนทำ IVF อาจจะได้ยินคำว่า “การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน” หรือ “PGT” มาบ้างแล้ว เพราะคนที่เคยผ่านรอบ IVF มาแล้วจะรู้ว่าการลุ้นตัวอ่อนจะฝังตัวสำเร็จหรือเปล่า เป็นช่วงที่ทั้งตื่นเต้นและกดดันที่สุด การตรวจโครโมโซมตัวอ่อนนี้จึงเหมือนเครื่องมือที่ช่วยให้คนที่เคยลองแล้วพลาด หรือต้องการลดโอกาสพลาด ได้รู้ล่วงหน้าว่าไข่ที่กำลังจะย้ายกลับมีโอกาสไปต่อจริง ๆ แค่ไหน
ขั้นตอนการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนเป็นยังไง
จริง ๆ แล้วสิ่งที่เรียกว่า “ตรวจโครโมโซมตัวอ่อน” เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการ IVF ที่เพิ่มเข้ามา ไม่ได้เพิ่มความซับซ้อนจนทำให้หลายคนต้องกังวลขนาดนั้น
การตรวจโครโมโซมตัวอ่อนโครโมโซมไม่ได้ไปยุ่งกับเซลล์ส่วนที่จะโตเป็นตัวเด็ก แต่จะตัดเซลล์ส่วนนอกเพียงไม่กี่เซลล์ไปวิเคราะห์ เพราะเซลล์ส่วนนั้นในอนาคตจะกลายเป็นรก ไม่ใช่ตัวทารกโดยตรง ข้อดีคือข้อมูลทางพันธุกรรมที่ได้มา ช่วยให้รู้ว่าตัวอ่อนนั้นมีโครโมโซมครบหรือเปล่า คู่ไหนที่เคยเจอปัญหาแท้งหลายครั้ง เพราะโครโมโซมผิดปกติจึงมักไม่อยากเสี่ยงซ้ำ
การตรวจโครโมโซมตัวอ่อนคืออะไร
ในการทำ IVF ปกติหลังเก็บไข่และอสุจิมาผสมกันในห้องแล็บ จะได้ตัวอ่อนหลายตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกตัวอ่อนจะสมบูรณ์พร้อมสำหรับการฝังตัวและพัฒนาเป็นทารกที่แข็งแรง ดังนั้นการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน จึงช่วยคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น จำนวนโครโมโซมเกิน ขาด หรือผิดตำแหน่ง เป็นต้น
เหตุผลจริง ๆ ที่คนทำ IVF ยอมจ่ายเพื่อตรวจโครโมโซม
คนที่ตัดสินใจทำ IVF ไม่ได้มีต้นทุนทั้งเงินและใจเหลือเฟือรอบแล้วรอบเล่า หลายคู่จึงยอมเพิ่มค่าใช้จ่ายตรงนี้เพราะมันช่วยลดความไม่แน่นอน การตรวจช่วยกรองตัวอ่อนที่แข็งแรงจริง ๆ ได้ก่อนเลือกกลับเข้าสู่โพรงมดลูก
ยิ่งถ้าอายุของคนทำเกิน 35 ปี โอกาสที่ไข่จะมีโครโมโซมผิดปกติยิ่งสูงขึ้นตามธรรมชาติ หลายคนคิดว่าทำครั้งเดียวต้องคุ้มที่สุด จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอเดือนหน้า เสียค่าใช้จ่ายใหม่รอบใหม่ หรือเจ็บใจถ้าต้องกลับไปเริ่มกระตุ้นไข่ตั้งแต่ต้นอีก
แม้การตรวจโครโมโซมตัวอ่อนจะไม่ใช่ทางเลือกที่จำเป็นสำหรับทุกคน แต่ในบางเคส เช่น คู่ที่มีประวัติแท้งซ้ำ คู่ที่อายุเกิน 35 หรือคนที่อยากลดโอกาสเสี่ยงเด็กมีความผิดปกติทางพันธุกรรมตั้งแต่แรก ก็ถือว่าการลงทุนนี้ตอบโจทย์ เพราะสุดท้ายจะช่วยให้การรอคอยมีลูกมีความหวังมากกว่าเดิม
อีกอย่างหนึ่งคือ เทคโนโลยีปัจจุบันทำให้ขั้นตอนนี้มีความแม่นยำมากขึ้นกว่าสมัยก่อน ลดความกังวลเรื่องตัวอ่อนเสียหายได้เยอะกว่าสมัยก่อนมาก
เรียกได้ว่าคู่รักคู่ไหนที่กำลังตัดสินใจว่าจะเพิ่มขั้นตอนการตรวจโครโมโซมตัวอ่อนหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเพื่อวางแผนแบบ step by step เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด อย่าเชื่อแค่คำโฆษณา เพราะท้ายที่สุดแล้วการทำ IVF จะได้ผลเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ทั้งฮอร์โมน คุณภาพไข่ จำนวนรอบที่ร่างกายพร้อมจะทำได้ และงบประมาณที่ต้องเตรียมไว้สำหรับการทำในแต่ละครั้ง