SUSTAINISM : UN ESCAP กับภารกิจสนับสนุนความยั่งยืน
องค์การสหประชาชาติ (United Nations หรือ UN) ก่อตั้งขึ้น […]
องค์การสหประชาชาติ (United Nations หรือ UN) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง UN ถูกสร้างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ รักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ปัจจุบัน UN มีสมาชิก 193 ประเทศและทำงานผ่านหน่วยงานย่อยต่างๆ ที่ครอบคลุมหลายด้าน เช่น สิทธิมนุษยชน การพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ
UN ESCAP (คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก) เป็นหนึ่งในห้าคณะกรรมาธิการภูมิภาคของสหประชาชาติ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947) โดยใช้ชื่อเดิมว่า คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งเอเชียและตะวันออกไกล (Economic Commission for Asia and the Far East หรือ ECAFE) จุดมุ่งหมายในการก่อตั้งคือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) ได้เปลี่ยนชื่อเป็น UN ESCAP เพื่อสะท้อนความรับผิดชอบที่กว้างขวางขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม UN ESCAP ครอบคลุม 53 ประเทศสมาชิกและ 9 ดินแดนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
UN ESCAP มุ่งเน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในภูมิภาค รวมถึงการส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในภูมิภาคนี้ ปัจจุบัน Ms. Armida Salsiah Alisjahbana ดำรงตำแหน่ง Executive Secretary ของ UN ESCAP โดยได้รับการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018) เธอมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาระดับสูง รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนพัฒนาชาติของอินโดนีเซีย
บทบาทของ UN ESCAP ที่มีต่อภาคเอกชนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกนั้นมีความสำคัญในหลายด้าน
1. ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน
UN ESCAP ทำงานร่วมกับภาคเอกชนในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้ธุรกิจปรับใช้แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในกระบวนการดำเนินงาน เช่น การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น
2. การสร้างกรอบนโยบายและมาตรฐาน
UN ESCAP มีบทบาทในการพัฒนากรอบนโยบายและมาตรฐานที่ส่งเสริมความยั่งยืนในภาคเอกชน เช่น การสนับสนุนการออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bonds) และการพัฒนาตลาดการเงินสีเขียว (Green Finance) ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถระดมทุนสำหรับโครงการที่ส่งเสริมความยั่งยืนและสอดคล้องกับ SDGs
3. เสริมสร้างความรู้และทักษะ
UN ESCAP จัดการฝึกอบรม การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการให้คำปรึกษาแก่ภาคเอกชน เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะในการนำแนวทางความยั่งยืนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น การจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
4. ส่งเสริมการลงทุนที่ยั่งยืน
UN ESCAP สนับสนุนการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและนักลงทุนในการพัฒนาโครงการที่ส่งเสริมความยั่งยืน เช่น โครงการพลังงานหมุนเวียนและโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน
5. การประสานงานและการร่วมมือระหว่างภาคส่วน
UN ESCAP มีบทบาทในการประสานงานระหว่างภาคเอกชน รัฐบาล และองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนานโยบายและโครงการที่ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในภูมิภาค
ภาคเอกชนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกสามารถได้รับประโยชน์จากการทำงานร่วมกับ UN ESCAP ทั้งในแง่ของการเข้าถึงโอกาสในการลงทุนที่ยั่งยืน การพัฒนากรอบนโยบายที่สนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน และการเสริมสร้างความรู้และทักษะในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
การทำงานร่วมกับ UN ESCAP เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่สอดคล้องกับแนวทางสากล และช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและโอกาสในการลงทุนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมการพิจารณาทำงานร่วมกับ UN ESCAP ถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งในระดับองค์กรและระดับภูมิภาค ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของท่านในระยะยาว
สอบถามการเข้าร่วมงานหรือติดต่อเข้าร่วมคอมมูนิตี้ธุรกิจจาก O2O
เข้าร่วมคอมมูนิตี้ของเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Community : o2oforum
Line : @o2oforum
Subscribe : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220, 0952156145