EVENT : Climate Action Forum การประชุมสุดยอดผู้นำความยั่งยืนด้านการฟื้นฟูสภาพภูมิอากาศ ณ องค์การสหประชาชาติ โดย AFMA (UN FAO) และ Sustainism (stnsm.org)
ในโลกที่กำลังเผชิญวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง ความเปร […]
ในโลกที่กำลังเผชิญวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง ความเปราะบางของระบบเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม ไม่ได้เป็นเพียงข้อกังวลเชิงวิชาการอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “ความเสี่ยงเชิงระบบ” ที่องค์กรทุกภาคส่วนต้องเผชิญร่วมกัน ในบริบทนี้ ความยั่งยืนจึงไม่ใช่เพียงคำพูดสวยงามในรายงาน แต่คือ “ยุทธศาสตร์อยู่รอด” ของธุรกิจและโลก
ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดเป็นการประชุม สุดยอดผู้นำด้านความยั่งยืนเพื่อฟื้นฟูสภาพภูมิอากาศ (Climate Action Forum 2025) ขึ้น ณ องค์การสหประชาชาติ ประเทศไทย เพื่อสร้างเวทีแห่งความร่วมมือที่แท้จริง ระหว่างผู้นำจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม
การประชุมในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจาก กว่า 100 บริษัททั่วโลก รวมถึง บริษัทมหาชนฯ ในประเทศไทยกว่า 40 แห่ง ที่มีนโยบายและแผนปฏิบัติด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนผู้กำหนดนโยบาย นักวิชาการ และผู้บริหารองค์กรที่มุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ
เราไม่ควรต้องเลือกระหว่างกำไรในวันนี้ กับโลกที่น่าอยู่ในวันพรุ่งนี้ เพราะองค์กรที่ยั่งยืน ต้องทำได้ทั้งสองอย่าง
“เราไม่ควรต้องเลือกระหว่างกำไรในวันนี้ กับโลกที่น่าอยู่ในวันพรุ่งนี้ เพราะองค์กรที่ยั่งยืน ต้องทำได้ทั้งสองอย่าง” คือถ้อยคำจาก คุณเพ็ชร ประภากิตติกุล ผู้อำนวยการ Sustainism โครงการเครือช่ายพันธมิตรความยั่งยืนระดับสากล บนเวทีองค์การสหประชาชาติ ซึ่งไม่ใช่เพียงถ้อยแถลง แต่คือแก่นคิดที่สะท้อนจุดยืนของธุรกิจยุคใหม่ ที่มอง “กำไร” และ “ความยั่งยืน” ไม่ใช่สิ่งที่ต้องแลกกัน แต่เป็นเป้าหมายที่ต้องเติบโตไปพร้อมกัน โดยมีนโยบาย ESG เป็นเสาหลัก และการลงมือทำอย่างจริงจังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความรับผิดชอบต่อทั้งโลกและผู้คนที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจเดียวกัน
เวทีนี้ไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยนแนวคิด แต่เป็นเวทีสำหรับ “การยืนยันเจตนารมณ์ด้วยการลงมือทำจริง” เราเล็งเห็นว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ ต้องเริ่มจาก “ความเข้าใจร่วมกัน” และ “พันธมิตรที่แข็งแรง”
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะไม่สามารถรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศได้ หากปราศจากความร่วมมือเชิงระบบจากทุกภาคส่วน ดร.ธิราช รุ่งเรืองกนกกุล อำนวยการสมาคมการตลาดเพื่อการเกษตรและอาหารแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกใน องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และ ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจ สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจแห่งคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) กล่าวบนเวที พร้อมเน้นบทบาทของข้อมูล วิทยาศาสตร์ และการสื่อสารที่โปร่งใสในการสร้างกลไกขับเคลื่อนระดับภูมิภาค โดยระบุว่า Climate Action Forum ไม่ได้เป็นเพียงเวทีหารือ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการรวบรวมผู้นำที่พร้อมจะสร้างความเปลี่ยนแปลงจริง เพื่อให้เป้าหมายระดับโลก แปรเปลี่ยนเป็นการลงมือทำระดับท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
การประชุมนี้จึงถูกร้อยเรียงผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่
- Climate Action: การดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- Climate Justice: การสร้างความเป็นธรรมให้ทุกภาคส่วนไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
- Climate Governance: การออกแบบระบบกำกับดูแลที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และตรวจสอบได้
หนึ่งในช่วงเวลาสำคัญของงานคือ พิธีมอบรางวัล Climate Action Awards ที่จัดขึ้นเพื่อยกย่ององค์กรที่แสดงให้เห็นถึง ภาวะผู้นำ ความกล้า และความมุ่งมั่น ในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความยั่งยืน
โดยได้รับเกียรติจาก คุณนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล พร้อมถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการเป็นผู้นำระดับภูมิภาคด้าน Climate Resilience
Climate Action Forum 2025 คือจุดเริ่มต้น ไม่ใช่บทสรุป เรามุ่งมั่นที่จะต่อยอดบทสนทนา ขยายความร่วมมือ และจัดทำข้อมูลในรูปแบบ UN Publication ผ่านความร่วมมือกับ AFMA (ภายใต้องค์การ FAO) เพื่อเผยแพร่ต่อในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เพราะเราเชื่อว่า ความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้จริง ก็ต่อเมื่อเราร่วมมือกันอย่างตั้งใจ มีข้อมูลรองรับ และเดินไปในทิศทางเดียวกัน
สอบถามการเข้าร่วมงานหรือติดต่อเข้าร่วมคอมมูนิตี้ธุรกิจจาก O2O
เข้าร่วมคอมมูนิตี้ของเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Community : o2oforum
Line : @o2oforum
Subscribe : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220
