ENTREPRENEUR

ENTREPRENEUR : METANET ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน โดย กันตพงศ์ พูนเกษม

การเผชิญหน้ากับภาวะการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกดิจิท […]

ENTREPRENEUR : METANET ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน โดย กันตพงศ์ พูนเกษม

การเผชิญหน้ากับภาวะการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกดิจิทัลเป็นเรื่องที่ทุก ๆ บริษัทต้องเผชิญในปัจจุบัน

เมื่อพูดถึงการเป็นผู้นำทางนวัตกรรมในอุตสาหกรรมดิจิทัล บริษัท เมตาเน็ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยมีฐานลูกค้าทั่วโลก เมตาเน็ท ไม่เคยหยุดพัฒนา และนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ที่ทันสมัย โดยการใช้เทคโนโลยี AI และการประมวลผลในระดับองค์กร มุ่งเน้นให้บริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดแก่ลูกค้า และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ทั้งในด้านความปลอดภัยและคุณภาพ

เราโฟกัสที่การเข้าไปช่วยคนอื่น มากกว่าการที่เราจะไปเอา METANET  เน้นการให้มากกว่าการรับ

คุณกันตพงศ์ พูนเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมตาเน็ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าว่าก่อนจะมาเป็น เมตาเน็ท ที่ประสบความสำเร็จอย่างในวันนี้ เริ่มต้นมาจากการจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และได้เริ่มทำงานด้าน Software Engineer อยู่สักระยะนึงประมาณ 3 ปี หลังจากนั้นจึงมีไอเดีย Startup Education Tech ตอนนั้นสิ่งที่อยากทำคือ อยากจะพัฒนาเรื่องของการศึกษาทั่วโลก โดยเฉพาะการศึกษาไทย ลดความเลื่อมล่ำลง สามารถเข้าถึงคุณภาพการศึกษาในระดับที่เท่ากันในแต่ละพื้นที่ ต้องการให้เข้าถึงคุณภาพเดียวกันหมด และก็มีเรื่องของการแนะแนว การแนะนำต่าง ๆ ก็เข้าถึงได้ทุกคน หมายความว่า ในระบบการศึกษาที่เราอยากทำคือการศึกษาออนไลน์ ซึ่งจะมี AI ที่คอยเป็นเหมือนที่เป็นครูแนะแนว ให้กับนักเรียนทุกคน ที่เข้ามาเรียนอยู่ในแพลตฟอร์มนี้ ครูแนะนวก็จะติดตาม เข้าใจชีวิตเรา วิเคราะห์ความชอบความสนใจความถนัดของเรา แนะนำแนวทางอาชีพที่ควรจะไปในอนาคต เรื่องของการผลักดันให้คนที่เรียน รู้ว่าเรียนไปทำไม เรียนแล้วมันได้ประโยชน์อะไรกับชีวิต ปกติในระดับมัธยม เราเรียนเพื่อสอบ สอบเสร็จก็จบ เป้าหมายของเรา ณ ตอนนั้นคือแค่นั้น แต่สิ่งที่ผมอยากจะทำคือ อยากทำให้การเรียนเรียนเพื่อตอบสนองเป้าหมายในอนาคตจริง ๆ ไม่ใช่เรียนเพื่อสอบ แต่มันต้องเป็นอนาคตที่เป็นการใช้ชีวิตจริง ๆ เพราะฉะนั้นการเรียนทุกบทเรียน ต้องรู้ว่าบทเรียนนี้นำไปใช้ในอนาคตได้ยังไง รู้ว่าสิ่งที่เรียนต่อยอดอาชีพได้อย่างไร เรียนรู้ว่าไปต่อยอดอะไรในอนาคตได้บ้าง พยายามกระตุ้นเด็กให้เกิดดการอยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา ผ่านรูปแบบของเกมส์ ตอนนั้นเราทำมาได้สักระยะนึงก็หยุดทำ ระหว่างนั้นเราก็เป็น Software Engineer เราก็รับงาน Software ไปเรื่อย ๆ จากตอนแรกก็มีแค่ผมคนเดียว ทำเองหมดทุกอย่าง ผมก็เริ่มจับกลุ่มกับเพื่อน ๆ ที่เป็น Software Engineer เหมือนกัน ก็เลยรวมกลุ่มกันรับงานมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ยอดล้านกว่าบาทตั้งแต่เรียนจบ

ซึ่งจากงานโปรเจคนั้น เราและทีมก็รับมาปิดงานได้ เลยได้ทุนจากตัวนั้นมาต่อยอดในการพัฒนาเป็นบริษัท ชื่อ เเมตาเน็ท เราก็พัฒนางานมาเรื่อย ๆ ตอนนั้นที่เรารับงานระดับล้าน ก็เกิดการวางระบบการทำงานของบริษัทซอฟแวร์แล้ว ซึ่งเราทำงานแบบ Hybird คือพนักงานประจำ และพนักงานที่เป็นแบบงาน Part time หรือฟรีแลนซ์ซึ่ง Part time กับฟรีแลนซ์ต่างกันตรงที่ Part time คือคนที่มีงานประจำอยู่แล้ว แต่อยากหารายได้เสริม ส่วนฟรีแลนซ์คือพวกรับงานนอกอยู่แล้วเต็มตัว ซึ่งเราก็วางแผน และวางระบบการทำงาน เรื่องของต้นทุน  เรื่องของโปรเจคต่าง ๆ อย่างดี โดย ณ ปัจจุบันก็จะมีโปรเจคนึงที่ทำร่วมกัน สูงสุดคือ 30 คน มีการออกแบบดีไซน์การทำงานตรงนั้น ซึ่งมันก็ออกมาดีเลย ตอนนี้ เมตาเน็ท มีพนักงานประจำ 10 คน และมี Part time กับ ฟรีแลนซ์ ประมาณ 30 กว่าคน ที่กำลังลงProject แต่ที่ลงทะเบียนมาเพื่ออยากรับงานกับเราคือ 800-900 คน เราต้องคัดคนที่มีความรับผิดชอบต่องาน คุณภาพงานดี เราจะไม่รอดูตอนลงงาน แต่เราจะดูเนื้องานก่อนที่เราจะรับเข้าทำงานผ่าน Portfolio ผลงานย้อนหลัง resume เราจะดูว่าคนนี้ทำงานกับเราได้ไหม แต่สำหรับคนที่รับงานครั้งแรก เราจะมีการสำรองทีมไว้ เราจะไม่ให้คนแรกต้องมารับงานโปรเจคใดโปรเจคนึง 100 เปอร์เซ็น จะต้องมีพี่เลี้ยงก่อนไม่งั้นเดี่ยวโปรเจคเสียหาย ซึ่งถ้าเกิดมีการทิ้งงาน เราก็จะมีคนสำรองทำงานแทนทันทีงานทุกงาน deliver ให้ลูกค้าได้ 100 เปอร์เซ็นตลอด

ของเราเน้นเป็นซอฟแวร์โซลูชั่น คือ ลูกค้าอยากได้อะไร มีปัญหาอะไรเราก็จะเข้าไปช่วย ตอนนี้เรามีงานที่เรากำลังพัฒนา งาน R&D เราทำ AI ที่พูดโต้ตอบกับเราได้ เป็นตัวการ์ตูน ความฉลาดอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ Chatgpt เวลาเราพูดภาษาไทย เค้าก็ตอบกลับเป็นภาษาไทย แล้วก็ตัว AI ตัวนี้ สามารถจำเราได้ หน้า อายุ เพศ และสามารถวิเคราะ อารมณ์ของเราได้ ดีใจ เสียใจ โกรธ ซึ่งลูกค้าสามารถนำ AI ตัวนี้ ไปใช้งานได้หลานด้าน เช่น พนักงานต้อนรับ ทำได้ หรือรับออร์เดอร์เมนูอาหารได้ ซึ่งก็สามารถไป Integrals กับระบบที่มีอยู่ได้

สินค้าเราไปช่วยลูกค้าได้ใน 2 ส่วน 1) ในกรณีที่องค์กรที่มีปัญหา เช่น ตรงนี้เป็นคอวดจากการใช้พนักงานประจำ ลูกค้าอยากเอาซอฟแวร์ไปช่วยลดกระบวนการที่เป็น routine พวก RPA พวก Robot ช่วยลดเรื่องของระยะเวลาการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน  และมีความเที่ยงตรงถ้าเทียบกับคน 2) คือ เป็นกลุ่มที่อยากทำระบบแพลตฟอร์ม ยกตัวอย่างกลุ่ม start up ที่อยากจะทำแพลตฟอร์มตัวกลาง การ Deliver สินค้า หรือว่าเป็นตัวกลาง E-Commerce

สิ่งที่เราโดดเด่นคือ การประยุกต์ของที่มีให้กับลูกค้า ยกตัวอย่าง ลูกค้าต้องการ requirement ประมาณนี้ เราไม่ได้ทำของใหม่ 100 เปอร์เซ็น ในกรณีที่เรามีของอยู่แล้ว เราจะเอาของนั้นมาต่อยอดให้ลูกค้า สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากเราคือ ประหยัดต้นทุน และประหยัดเวลาในการพัฒนาระบบ ยกตัวอย่าง ลูกค้าต้องการระบบเดลิเวอรี่สินค้า ที่ใช้ภายในองค์กร ซึ่งเรามีแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่อยู่แล้ว เราก็เอาแพลตฟอร์มตัวนั้นไปปรับและประยุกต์ให้เข้ากับธุรกิจของลูกค้า แทนที่เราจะต้องไปพัฒนาเป็นปี เราก็ลดเหลือแค่ไม่กี่เดือน และต้นทุนก็จะต่ำลง จากหลักล้านสู่หลักแสน ซึ่งระบบที่เรามี มีแทบทุกอย่างที่อยู่ในองค์กรอยู่แล้ว ด้วย METANET มีกลุ่ม partner ต่างประเทศด้วย เพราะฉะนั้นเราจะได้เรื่อง license ต่าง ๆ ซึ่งเราก็จะหากับ partner ที่อยู่ต่างประเทศ

ด้านซอฟแวร์ โซลูชั่นหนีไม่พ้นเรื่อง ช่วยเหลือแนะนำ ช่วยให้คำปรึกษาในส่วนของคำปรึกษาเราให้ฟรีเลย ไม่มีค่าใช้จ่าย ลูกค้าคนไหนที่มีปัญหา ก็สามารถมาปรึกษาหรือขอคำแนะนำจาก METANET  ได้ฟรี และถ้าอยากทำซอฟแวร์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

สอบถามการเข้าร่วมงานหรือติดต่อเข้าร่วมคอมมูนิตี้ธุรกิจจาก O2O

O2O

เข้าร่วมคอมมูนิตี้ของเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Community : o2oforum
Line : @o2oforum
Subscribe : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220, 0952156145

O2O
About Author

O2O

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *