SUSTAINABILITY

SUSTAINABILITY : AOT ชวนปลูกต้นแดงได้คาร์บอนเครดิต

ต้นแดงเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีชื่อเสี […]

SUSTAINABILITY : AOT ชวนปลูกต้นแดงได้คาร์บอนเครดิต

ต้นแดงเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีชื่อเสียงในด้านความทนทาน นิยมใช้ในงานก่อสร้าง เนื่องจากทนต่อสภาพอากาศและการกัดกร่อนจากแมลง ต้นแดงมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศป่าผลัดใบของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม้แดงเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและทนทานมาก จึงถูกนำมาใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรง เช่น เสาบ้าน คาน และเฟอร์นิเจอร์หนัก นอกจากนี้ ไม้แดงยังมีลวดลายที่สวยงาม ทำให้เป็นที่นิยมในการนำไปใช้ในงานตกแต่งภายในบ้าน 

การใช้ไม้แดงในประเทศไทยมีประวัติยาวนาน ไม้แดงมักถูกใช้ในการก่อสร้างอาคาร วัด หรือสะพานในท้องถิ่น เนื่องจากความทนทานต่อสภาพอากาศแปรปรวนและความคงทนต่อการเสื่อมสภาพจากแมลง ทำให้ไม้แดงได้รับการยอมรับอย่างสูงในงานก่อสร้างโครงสร้างที่ต้องการความคงทน 

ต้นแดงสามารถนำมาปลูกเพื่อการตกแต่งอาคารสถานที่ โดยเฉพาะในพื้นที่สวนสาธารณะหรือที่โล่งแจ้ง การปลูกต้นแดงมีบทบาทสำคัญด้านนิเวศวิทยา เพราะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในดินและรักษาความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน นอกจากนี้ ต้นแดงยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันการพังทลายของดิน โดยเฉพาะดินร่วนและดินทราย เนื่องจากระบบรากลึกและแผ่กว้าง ช่วยปรับปรุงสภาพสิ่งแวดล้อมโดยรวม ต้นไม้ชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งในการนำมาปลูกเพื่อฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม หรือใช้ในพื้นที่ป่าชุมชนดั้งเดิมและป่าปลูกใหม่

ไม้แดงเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและทนทาน ทนต่อการกระแทกสูง ไม่ถูกทำลายโดยเพรียงและปลวกง่าย นอกจากนี้ยังทนไฟ จึงนิยมใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน เช่น ทำเสา รอด ขื่อ หรือพื้นไม้ รวมถึงการนำมาทำเรือ สะพาน หมอนรางรถไฟ และด้ามเครื่องมือต่าง ๆ ไม้แดงยังใช้ในงานแกะสลักและทำเครื่องเรือนด้วย คุณสมบัติอีกประการหนึ่งคือไม้แดงสามารถนำมาทำเป็นถ่านคุณภาพดี ให้ค่าความร้อนสูงถึง 7,384 แคลอรีต่อกรัม ทำให้เป็นแหล่งพลังงานที่มีประสิทธิภาพในการทำฟืนหรือถ่านไม้

นอกจากการใช้ประโยชน์ในด้านการก่อสร้างแล้ว ต้นแดงยังมีบทบาทสำคัญในเชิงนิเวศวิทยา การปลูกต้นแดงในพื้นที่ป่าจะช่วยป้องกันการกัดเซาะดินและช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดินในพื้นที่ป่าผลัดใบ ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศและส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ต้นแดงพบได้ทั่วไปในป่าผลัดใบและป่าเบญจพรรณของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตัวอย่าง อบต. ที่สนับสนุนการปลูกต้นแดง ได้แก่

  1. อบต.ห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ 
  1. อบต.หนองผือ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม 
  1. อบต.บ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ 

ต้นแดงสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 25-40 กิโลกรัมต่อปี ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของต้น หากเปรียบเทียบกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากรถยนต์ 100,000 คัน ซึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 4.6 ตันต่อปี การปลูกต้นแดงประมาณ 14.15 ล้านต้น จะสามารถดูดซับคาร์บอนได้เท่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์ 100,000 คัน

การปลูกต้นแดงสามารถทำได้จากเมล็ดหรือต้นกล้า ควรปลูกในดินที่มีการระบายน้ำดีและมีแสงแดดเต็มที่ การดูแลต้นไม้ในช่วงแรกจำเป็นต้องรดน้ำสม่ำเสมอและใส่ปุ๋ยเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต ต้นแดงเป็นไม้ที่สามารถเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนแห้งและทนต่อสภาพดินหลากหลายประเภท 

เมล็ดของ ต้นแดง มีลักษณะเด่นคือ รูปร่างกลมรี ขนาดเล็ก มีเปลือกแข็งล้อมรอบ โดยปกติเมล็ดจะอยู่ภายในฝักที่มีขนาดใหญ่ เมล็ดมักสีน้ำตาลเข้มหรือดำ และเปลือกเมล็ดค่อนข้างหนา ทำให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก เมล็ดแดงสามารถนำมาเพาะพันธุ์เพื่อปลูกต้นใหม่ได้ และยังมีการกล่าวว่าเมล็ดแดงสามารถนำมารับประทานได้ในบางกรณี

ต้นแดงจะเริ่มดูดซับคาร์บอนได้ดีที่สุดเมื่อมีอายุ 10-20 ปี ในช่วงที่ต้นเจริญเติบโตเต็มที่ ต้นแดงสามารถมีอายุยาวนานถึง 100 ปี โดยต้นที่มีอายุเกิน 30 ปีจะมีประสิทธิภาพในการดูดซับคาร์บอนได้สูงสุด

สอบถามการเข้าร่วมงานหรือติดต่อเข้าร่วมคอมมูนิตี้ธุรกิจจาก O2O

เข้าร่วมคอมมูนิตี้ของเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Community : o2oforum
Line : @o2oforum
Subscribe : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220, 0952156145

O2O ESG
About Author

O2O ESG

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *