SUSTAINABILITY : AOT ชวนปลูกต้นพะยูงได้คาร์บอนเครดิต
ต้นพะยูงเป็นไม้ยืนต้น มีเนื้อไม้ที่แข็งแรงและลวดลายสวยง […]
ต้นพะยูงเป็นไม้ยืนต้น มีเนื้อไม้ที่แข็งแรงและลวดลายสวยงาม ทำให้เป็นไม้เศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง นิยมใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์และงานก่อสร้างที่ต้องการความทนทาน
ต้นพะยูงเป็นไม้ที่มีชื่อเสียงในด้านความแข็งแรงของเนื้อไม้และความสวยงามของลวดลาย โดยเป็นไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยมในการใช้ทำเฟอร์นิเจอร์หรูหราและงานแกะสลัก การใช้ประโยชน์จากไม้พะยูงในประเทศไทยมีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการส่งออกไม้พะยูงไปยังต่างประเทศ เนื่องจากไม้พะยูงเป็นไม้ที่มีมูลค่าสูงและมีความทนทานสูง การปลูกและดูแลไม้พะยูงเป็นที่นิยมในภาคอีสานของประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งที่พบต้นพะยูงมากที่สุด
ต้นพะยูงถือเป็นไม้มงคลที่มีความสำคัญในการก่อสร้างอาคาร หรือใช้เป็นฐานในการประดิษฐ์ถาวรวัตถุต่าง ๆ โดยเฉพาะในพิธีก่อฤกษ์หรือวางศิลาฤกษ์ การปลูกต้นพะยูงมักนิยมปลูกในวันเสาร์ และควรปลูกในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน ตามความเชื่อโบราณ ต้นพะยูงได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่ม 9 ชนิดไม้มงคลที่เหมาะสมสำหรับการปลูกไว้ในบ้าน ได้แก่ ชัยพฤกษ์, ราชพฤกษ์, ทองหลวง, ไผ่สีสุก, กันเกรา, ทรงบาดาล, สัก, พะยูง และขนุน
มีบทกลอนที่กล่าวถึงความเป็นมงคลของไม้มงคลทั้ง 9 ชนิด โดยในส่วนของต้นพะยูงมีเนื้อความดังนี้:
“ไม้พะยูง พยุงฐานะงานทำนั้น
ให้คงมั่นพลันยิ่งทุกสิ่งที่
ปลูกไว้กันนั้นคุณจุนเจือมี
ไม้ดีดีไม่ดูดายขยายไป”
ซึ่งสื่อถึงความเชื่อที่ว่าการปลูกต้นพะยูงจะช่วยส่งเสริมความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในด้านการงานและฐานะ
ความโดดเด่นของพะยูงไม่เพียงแค่เรื่องเนื้อไม้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสวยงามของลวดลายไม้ที่ดูหรูหราและมีความเงางามตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ไม้พะยูงยังมีความแข็งแกร่งและทนทานต่อแมลงและปลวก ทำให้ไม้ชนิดนี้เหมาะสำหรับงานตกแต่งบ้านเรือนและงานศิลปหัตถกรรม นอกจากนี้ ไม้พะยูงยังถูกนำไปใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาและการสร้างสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ เนื่องจากเป็นไม้ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมสูง
นอกจากการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจแล้ว ไม้พะยูงยังเป็นไม้ที่อยู่ในกลุ่มพืชคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศไทย เนื่องจากการลักลอบตัดไม้พะยูงเพื่อนำไปขายในตลาดต่างประเทศเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การอนุรักษ์และปกป้องต้นพะยูงในธรรมชาติเป็นประเด็นที่หน่วยงานภาครัฐและองค์กรอนุรักษ์ให้ความสำคัญ
ต้นพะยูงพบได้ในป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ โดยเฉพาะในภาคอีสานของประเทศไทย เช่น จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังมีการปลูกพะยูงเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่เสื่อมโทรม
ตัวอย่างของ อบต. ที่สนับสนุนการปลูกต้นพะยูง ได้แก่:
- อบต.หนองผือ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ
- อบต.สำโรง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
- อบต.เสลภูมิ อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
การปลูกต้นพะยูงในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม โดยเฉพาะในพื้นที่ปลูกป่าใหม่ ดอกของต้นพะยูงมีส่วนช่วยในการสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์มากขึ้น เนื่องจากดอกไม้ช่วยดึงดูดสัตว์ป่าและแมลงที่เป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศในระยะยาว
ต้นพะยูงที่โตเต็มที่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 30-50 กิโลกรัมต่อปี ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของต้น หากเปรียบเทียบกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์ 100,000 คัน ซึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยคันละ 4.6 ตันต่อปี ปลูกต้นพะยูงประมาณ 11.5 ล้านต้น จะสามารถดูดซับคาร์บอนเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซจากรถยนต์ 100,000 คันต่อปี
ต้นพะยูงสามารถปลูกได้จากเมล็ดหรือการเพาะกล้า ควรปลูกในดินที่มีการระบายน้ำดีและมีแสงแดดเต็มที่ การปลูกในช่วงต้นฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากต้นไม้จะได้รับน้ำเพียงพอในช่วงแรกของการเจริญเติบโต การดูแลในช่วงแรกจำเป็นต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอและป้องกันการรุกรานจากศัตรูพืช
พะยูงจะเจริญเติบโตเต็มที่เมื่อมีอายุประมาณ 15-20 ปี ในช่วงที่ต้นโตเต็มที่จะสามารถดูดซับคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจสอบอายุของต้นพะยูงสามารถทำได้โดยการนับวงปีหรือตรวจสอบลักษณะของลำต้น เมื่อต้นพะยูงอายุเกิน 30 ปี จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจได้เต็มที่ ทั้งในด้านการทำเฟอร์นิเจอร์และการผลิตไม้ที่มีมูลค่าสูง
สอบถามการเข้าร่วมงานหรือติดต่อเข้าร่วมคอมมูนิตี้ธุรกิจจาก O2O
เข้าร่วมคอมมูนิตี้ของเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Community : o2oforum
Line : @o2oforum
Subscribe : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220, 0952156145