SUSTAINABILITY : จริงหรือไม่ที่ E-Waste คือตัวการสำคัญของภาวะโลกร้อน
ในโลกที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตป […]

ในโลกที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งของเล่นเด็ก “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” หรือ E-Waste คือ สิ่งที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมหาศาลตามอัตราการบริโภคที่ไม่หยุดนิ่ง แต่เมื่อพูดถึงปัญหาโลกร้อน หลายคนมักนึกถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคอุตสาหกรรมหรือยานพาหนะเป็นลำดับแรก แล้ว E-Waste ที่เราใช้และทิ้งในชีวิตประจำวันเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนแค่ไหน ? คำตอบคือ “มากกว่าที่คิด”
ขยะอิเล็กทรอนิกส์: มากกว่าแค่ ‘ขยะ’
รายงานของ Global E-waste Monitor 2024 ระบุว่า ในปี 2022 โลกสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ถึง 62 ล้านตัน โดยมีเพียง 22.3% เท่านั้นที่ได้รับการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง ขณะที่ส่วนใหญ่ถูกฝังกลบ เผา หรือลักลอบทิ้งในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งวิธีการเหล่านี้คือแหล่งกำเนิดก๊าซเรือนกระจก และสารพิษที่ส่งผลต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมนุษย์
การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เองก็ใช่ย่อย การขุดแร่หายาก เช่น โคบอลต์ ลิเทียม หรือแทนทาลัม เพื่อผลิตแบตเตอรี่หรือวงจรไฟฟ้า จำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะถ้าใช้ไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ยิ่งทำให้การผลิตปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากการผลิตถึงการกำจัด: วัฏจักรของมลพิษ
หนึ่งในมุมที่มักถูกมองข้ามคือ “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” ตลอดวงจรชีวิตของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่กระบวนการผลิต การขนส่ง การใช้งาน ไปจนถึงการกำจัด ตัวอย่างเช่น:
- สมาร์ตโฟน 1 เครื่องปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 70 กิโลกรัม ตลอดอายุการใช้งาน
- คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่ไม่ได้รีไซเคิล ปล่อยสารเรือนกระจกจากการสลายตัวของพลาสติกและการเผาสารเคมีในวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ในหลายประเทศกำลังพัฒนา ขยะเหล่านี้ถูกนำไปแยกส่วนด้วยมือ โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและใช้วิธีเผาโลหะเพื่อนำทองแดงกลับมาใช้ใหม่ กระบวนการนี้ปล่อยก๊าซพิษ เช่น ไดออกซิน และสารทำลายโอโซน ซึ่งล้วนเป็นตัวเร่งให้โลกร้อนขึ้น
E-Waste กับผลกระทบซ้อนซ่อนรูป
E-Waste คือเรื่องที่ควรตระหนัก เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศโดยตรงเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลทางอ้อม เช่น:
- การเพิ่มอุปสงค์ต่อทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าและทำเหมืองมากขึ้น
- การปล่อยก๊าซฟลูออโรคาร์บอน (CFC/HFC) จากเครื่องทำความเย็นเก่าที่ถูกทิ้งผิดวิธี โดยก๊าซเหล่านี้มี Global Warming Potential (GWP) สูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์หลายพันเท่า
- การทำลายระบบนิเวศท้องถิ่น เมื่อสารพิษจาก E-Waste ปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำและดิน
ทั้งหมดนี้ล้วนเร่งกระบวนการโลกร้อนทางอ้อมอย่างเงียบ ๆ
E-Waste มีส่วนสำคัญต่อภาวะโลกร้อน
แม้จะไม่ใช่แหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับต้น ๆ อย่างโรงงานอุตสาหกรรมหรือระบบขนส่ง แต่ E-Waste คือตัวการสำคัญในระบบนิเวศที่ทำให้โลกร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสิ่งที่มนุษย์ใช้อย่างต่อเนื่อง และผลิตซ้ำในวัฏจักรที่ไม่มีที่สิ้นสุด
รีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ และผลิตอย่างยั่งยืน
ทางรอดไม่ได้อยู่ที่การ “เลิกใช้เทคโนโลยี” แต่อยู่ที่ การออกแบบเพื่อรีไซเคิล (Design for Recycling) และ การบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ หลายประเทศเริ่มบังคับใช้ Extended Producer Responsibility (EPR) หรือกฎหมายที่ให้ผู้ผลิตรับผิดชอบกับผลิตภัณฑ์ของตนจนถึงปลายทาง เช่น:
- การรับคืนสินค้าที่หมดอายุการใช้งาน
- การใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ง่าย
- การลดการใช้สารเคมีที่เป็นพิษตั้งแต่ต้นทาง
ผู้บริโภคเองก็มีบทบาทสำคัญ เริ่มจากการ “ใช้งานอุปกรณ์ให้นานขึ้น” และเลือกแบรนด์ที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมชัดเจน
กล่าวโดยสรุป เป็นเรื่องจริงที่ E-Waste คือหนึ่งในสิ่งที่บทบาทสำคัญในวิกฤตโลกร้อน ทั้งในแง่ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงและผลกระทบทางอ้อม การจัดการกับปัญหานี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการแยกขยะ แต่คือการทบทวนทั้งระบบการผลิตและการบริโภคในโลกเทคโนโลยีของเราเอง
สอบถามการเข้าร่วมงานหรือติดต่อเข้าร่วมคอมมูนิตี้ธุรกิจจาก O2O


เข้าร่วมคอมมูนิตี้ของเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Community : o2oforum
Line : @o2oforum
Subscribe : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220