SUSTAINABILITY : ยกระดับบริการ ESG ของคุณ ให้เป็นมากกว่ารายจ่ายของลูกค้า
หากคุณต้องการเป็นมากกว่าธุรกิจที่ “พูดถึงความยั่งยืน” แ […]

หากคุณต้องการเป็นมากกว่าธุรกิจที่ “พูดถึงความยั่งยืน” แต่ต้องการเป็น พลังขับเคลื่อน ให้ความยั่งยืนเกิดขึ้นจริง ทั้งในองค์กรของคุณเอง และในเส้นทางของลูกค้าที่คุณให้บริการ คุณต้องจับมือกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์และศักยภาพเชิงระบบ อาทิ Sustainism (stnsm.org) เพราะการจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ไม่อาจเกิดจากความตั้งใจเพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยโครงสร้าง วิธีคิด เครื่องมือ และพันธมิตรที่เชื่อถือได้ Sustainism คือผู้แปลงเป้าหมายระดับโลกให้กลายเป็นแผนที่ปฏิบัติการเชิงธุรกิจ ที่ตรวจสอบได้ น่าเชื่อถือ และสร้างผลลัพธ์ที่โลกจับต้องได้ — เพื่อให้คุณและลูกค้าของคุณ ไม่ใช่แค่เดินตามเป้าหมาย SDGs แต่ กลายเป็นผู้กำหนดทิศทางใหม่ของความยั่งยืนร่วมกัน
การให้บริการด้าน ESG ที่แท้จริง ไม่ควรจบเพียงแค่การผ่านเกณฑ์ audit หรือมีเอกสารเชิงเทคนิคไว้แนบในรายงานประจำปี แต่ควรตั้งคำถามให้ชัดว่า “แล้วบริการนี้ พาธุรกิจของลูกค้าเดินหน้าไปถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้แค่ไหน?” เพราะในยุคที่ทุกองค์กรต่างประกาศเป้าหมายด้าน SDG การมีผู้ให้บริการที่เข้าใจและเชื่อมโยง ESG สู่ผลกระทบที่แท้จริง (impact alignment) คือข้อได้เปรียบทางกลยุทธ์ที่วัดค่าได
ESG คือเครื่องมือ ส่วน SDG คือเข็มทิศ
ESG เป็นกลไกการบริหารความเสี่ยงและโอกาสที่ตรวจสอบได้ ซึ่งสร้างผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน พัฒนาประสิทธิภาพ หรือสร้างเครดิตองค์กร ขณะที่ SDG คือเป้าหมายใหญ่ของระบบเศรษฐกิจและสังคมโลก เช่น การขจัดความยากจน (SDG1), พลังงานสะอาด (SDG7) หรือความเท่าเทียมทางเพศ (SDG5) การบริการที่ดีต้องสามารถ “ตีความ” ว่าธุรกิจลูกค้าเกี่ยวข้องกับ SDG ใด และสามารถแสดงให้เห็นว่า ผลลัพธ์จาก ESG ที่จัดทำมีความสอดคล้องกับ SDG เป้าหมายนั้นอย่างไร
ในแผนภาพที่นำเสนอ หากเรามอง “จุดผ่าน ESG audit” เป็นเพียง checkpoint หนึ่ง ธุรกิจยั่งยืนที่แท้จริงจะต้องเดินต่อไปถึงจุดที่สามารถสื่อสารผลกระทบต่อสาธารณะ ตีพิมพ์ในเวทีระหว่างประเทศ และได้รับการยอมรับในฐานะ “แรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ” เท่านั้นจึงจะเรียกได้ว่า พาธุรกิจไปได้ไกลพอในถนนความยั่งยืน และไม่ตกขบวนการเงินทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมหรือแรงสนับสนุนจากภาคประชาสังคม
คำถาม คือ หากคุณเป็นผู้ให้บริการ หรือ เป็นส่วนนึงของห่วงโซ่การผลิตของธุรกิจรายใหญ่ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน คุณส่งเสริมลูกค้าของคุณได้ไกลแค่ไหน
1.ทำให้ต้นทุนการมุ่งสู่ความยั่งยืนต่ำลงได้
2.ได้รับบริการ หรือ สินค้าที่ผ่านการรับรองความยั่งยืน
3.ใช้ความยั่งยืนสร้างขีดความสามารถแข่งขันรูปแบบใหม่
4.ได้รับการรับรองโดยองค์การระหว่างประเทศ ระดับรัฐบาล
5.ตีพิมพ์เผยแพร่ภารกิจความยั่งยืนในเวทีสากล เพื่อดึงดูดนักลงทุน
หากคุณในฐานะผู้ให้บริการ หรือส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจรายใหญ่ สามารถลดต้นทุนการมุ่งสู่ความยั่งยืนให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันส่งมอบสินค้าและบริการที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ESG หรือ SDG ได้จริง สิ่งที่คุณมอบให้จึงไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์หรือบริการ แต่คือ “ความน่าเชื่อถือที่ตรวจสอบได้” ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือแข่งขันในเวทีระดับประเทศและนานาชาติ นี่คือระดับของพันธมิตรทางกลยุทธ์ที่ธุรกิจยุคใหม่กำลังมองหา — ไม่ใช่แค่ vendor แต่คือ enabler แห่งความยั่งยืน
และหากคุณสามารถยกระดับบริการไปจนถึงการสนับสนุนให้ลูกค้าได้รับการรับรองจากองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงสามารถสื่อสารภารกิจความยั่งยืนผ่านการตีพิมพ์ในเวทีสากล เช่น เครือข่าย UN สิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนสถานะของคุณจาก “ต้นทุน” เป็น “ทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์” ในสายตาลูกค้า เพราะคุณไม่เพียงช่วยให้เขาทำดี แต่ทำได้อย่างมีน้ำหนักและวัดผลได้จริง และในจุดนั้น ต่อให้มีใครเข้ามาเสนอราคาต่ำกว่า เขาก็ไม่สามารถเข้ามาแทนที่คุณได้เลย
กรณีศึกษาที่ดีกับโลก และ ธุรกิจ

ความร่วมมือระหว่าง UNDP และเจนเนอราลี่
UNDP และ เจนเนอราลี่ร่วมเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ MSME ในประเทศไทย
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และเจนเนอราลี่ได้ร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในด้านการเข้าถึงการประกันภัยและโซลูชันทางการเงินเพื่อการบริหารความเสี่ยง ซึ่งช่วยเสริมสร้างความสามารถในการรับมือปัญหาของชุมชนและธุรกิจในท้องถิ่น
ภายใต้ความร่วมมือระยะยาวครั้งนี้ เจนเนอราลี่มุ่งให้การสนับสนุนทรัพยากรทั้งด้านเทคนิคและการเงินให้กับโครงการ Insurance and Risk Finance Facility (IRFF) ของ UNDP เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ประชาชนและพื้นที่ที่เปราะบางที่สุดในโลก
ความร่วมมือนี้ผสานความเชี่ยวชาญด้านการประกันภัยของเจนเนอราลี่เข้ากับวิสัยทัศน์ในระยะยาวของ UNDP ในการสนับสนุนด้านการเงินและการพัฒนา
นอกจากนี้ ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว UNDP และเจนเนอราลี่ยังให้การสนับสนุน InsuResilience Vision 2025 ซึ่งรวมถึงการช่วยให้ประชาชนที่เปราะบาง 500 ล้านคนเข้าถึงความคุ้มครองจากสภาพอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ การให้ความคุ้มครองประชาชนที่เปราะบาง 150 ล้านคนผ่านโซลูชั่นไมโครอินชัวรันส์ และการผลักดันนวัตกรรมด้านประกันภัยสู่หัวใจสำคัญของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และวาระการดำเนินงาน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ
Generali ได้รับการจัดอันดับด้านความยั่งยืนในระดับสูง เช่น ได้รับเรตติ้ง AAA จาก MSCI ESG (อันดับสูงสุด) และติดตามดัชนี Dow Jones Sustainability Index ทั้งโลกและยุโรป (DJSI World/Europe) ในปี 2024 ด้วยมาตรการด้าน ESG/CSR ที่แข็งแกร่ง คณะผู้จัดอันดับเหล่านี้ยกให้ Generali เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันในด้านการจัดการความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ การลงทุนยั่งยืน และการกำกับดูแลกิจการ ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์เชิงบวกด้านความยั่งยืนของบริษัท (เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ เพื่อเสริมความยืดหยุ่น) ซึ่งสะท้อนอยู่ในการจัดอันดับรวมถึงรายงานความยั่งยืนของบริษัท
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ Generali นำเสนอความร่วมมือกับ UNDP อย่างต่อเนื่องในเอกสารสำหรับผู้ถือหุ้น โดยรายงานประจำปี 2023 ของกลุ่มระบุถึงการริเริ่มหลายรายการร่วมกับ UNDP ได้แก่ “Insurance Innovation Challenge Fund” ในมาเลเซีย, กรอบป้องกันความสูญเสีย (loss prevention framework) สำหรับธุรกิจ SMEs ที่เปราะบาง และการขยายโครงการ SME EnterPRIZE ไปสู่ภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ รายงานยังเล่าถึงการใช้ข้อมูลของ UNDP (Climate Horizons) มาประเมินความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศในพอร์ตชีวิตประกัน ซึ่งสะท้อนความเชื่อมโยงระหว่างงานวิจัยกับกลยุทธ์การลงทุนรายย่อยของบริษัท ที่สำคัญคือ Generali ได้นำเสนอข้อมูลเหล่านี้ในช่องทางทางการ (Investor Reports) เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้นว่าบริษัทกำลังขยายกิจกรรมเพื่อสังคมเชิงยุทธศาสตร์อยู่

ความยั่งยืนที่แท้จริง ไม่ใช่การทำโครงการเพื่อภาพลักษณ์ แต่คือการฝัง ESG ลงในธุรกิจหลัก และสะท้อนผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต่อผู้คนและระบบเศรษฐกิจ กรณีความร่วมมือระหว่างเจนเนอราลี่และ UNDP คือแบบอย่างของการดำเนินความยั่งยืนที่ถูกต้อง เพราะมิใช่เพียงการสนับสนุนชุมชนที่เปราะบางในนามของ CSR เท่านั้น หากแต่เป็นการพัฒนาโมเดลประกันภัยที่สอดคล้องกับความเสี่ยงจริงของ MSMEs โดยใช้ข้อมูล วิจัย และเครื่องมือระดับโลกมาเชื่อมโยงกับระบบบริการของบริษัท
นี่คือการทำ ESG ที่ฝังอยู่ใน “แกนกลางของธุรกิจ” (core operations) ซึ่งสะท้อนผลลัพธ์ได้จริงใน 3 มิติ ได้แก่ ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ความสามารถในการฟื้นตัวของชุมชน และโอกาสทางธุรกิจในตลาดเกิดใหม่ ความร่วมมือในลักษณะนี้คือเครื่องพิสูจน์ว่า ความยั่งยืนไม่ใช่เป้าหมายแยกขาดจากธุรกิจ แต่คือ “แนวทางการเติบโต” ที่ทุกองค์กรต้องเดิน
สอบถามการเข้าร่วมงานหรือติดต่อเข้าร่วมคอมมูนิตี้ธุรกิจจาก O2O


เข้าร่วมคอมมูนิตี้ของเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Community : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220