SUSTAINABILITY : เล็กแต่ชนะดีล B2B ESG แบบ South Pole
ในระบบนิเวศของการพัฒนาที่ยั่งยืน ธุรกิจขนาดใหญ่จำนวนมาก […]

ในระบบนิเวศของการพัฒนาที่ยั่งยืน ธุรกิจขนาดใหญ่จำนวนมากเผชิญข้อจำกัดในการปรับตัว เนื่องจากความซับซ้อนของห่วงโซ่อุปทาน ระบบบริหารภายใน และแรงกดดันจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การดำเนินงานด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) จึงต้องอาศัยพันธมิตรภายนอกที่สามารถให้คำแนะนำเฉพาะทางได้จริง โดยเฉพาะในระบบ B2B ESG ที่ต้องการมาตรฐานสูง ความโปร่งใส และผลลัพธ์ที่ตรวจสอบได้
ในบริบทนี้ ผู้ประกอบการรายเล็กที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางกลับกลายเป็น “กลไกเสริม” ที่จำเป็นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องที่เป็นเทคนิคเชิงลึก เช่น การจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ การรายงาน Scope 3 emissions หรือการออกแบบโครงการ offset ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เช่น GHG Protocol, GRI หรือ IFRS S2 ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในยุทธศาสตร์ ESG B2B สมัยใหม่
กรณีศึกษาของ South Pole จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของผู้ให้บริการ B2B ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านความเชี่ยวชาญเชิงลึก South Pole เริ่มต้นจากการเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในตลาดคาร์บอน (carbon market) และความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ (climate risk) ด้วยขนาดองค์กรที่เล็กในช่วงเริ่มต้น South Pole ไม่สามารถแข่งขันด้านขนาดหรือทุนกับบริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ได้ แต่สามารถ “รู้ลึกเฉพาะด้าน” และเสนอคุณค่าที่องค์กรขนาดใหญ่ในสาย B2B ESG ต้องการมากที่สุด
จากจุดเริ่มต้นนั้น South Pole ได้พัฒนาเป็นที่ปรึกษาด้าน ESG ให้กับแบรนด์ระดับโลก เช่น Nestlé, Microsoft และ L’Oréal โดยเฉพาะในด้านการวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าทางสิ่งแวดล้อม และการจัดทำโครงการชดเชยคาร์บอน (carbon offset projects) ที่สอดคล้องกับแนวทางของ Paris Agreement ปัจจุบัน South Pole ยังให้บริการกับหลายบริษัทในเอเชียที่ต้องการจัดการข้อมูล ESG ในเชิงลึก โดยเฉพาะองค์กร B2B ที่เริ่มเปิดเผย Scope 3 emissions หรือวางแผน Net Zero อย่างเป็นระบบ


South Pole ไม่ได้วางตัวเองเป็นบริษัทให้คำปรึกษาทั่วไป แต่เลือกเน้นเฉพาะ 3 ด้านหลัก ซึ่งมักเป็นช่องโหว่ขององค์กร B2B ขนาดใหญ่ ได้แก่:
- Carbon Markets & Pricing Mechanisms – เข้าใจโครงสร้างราคาคาร์บอนทั้งในระบบภาคบังคับและสมัครใจ เช่น EU ETS, Verra, Gold Standard ซึ่งองค์กร B2B ขนาดใหญ่ต้องการข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ในการวางกลยุทธ์
- Climate Risk Modeling & Scenario Analysis – ช่วยบริษัทสร้างแบบจำลองความเสี่ยงด้านภูมิอากาศตามกรอบ TCFD หรือ ISSB S2 เพื่อประเมินผลกระทบต่อธุรกิจและรายงานต่อผู้ถือหุ้น
- Scope 3 Emissions & Supply Chain Decarbonization – วางแผนลดคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของบริษัท B2B หลายแห่งที่ยังขาดระบบติดตามและโครงการร่วมกับซัพพลายเออร์
นอกจากความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านแล้ว South Pole ยังโดดเด่นในด้านการสื่อสารกลยุทธ์กับ C-Level และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผ่านการออกแบบ Carbon Credit Strategy และ Roadmap ESG ที่สอดคล้องกับ Science-based Targets และกลยุทธ์องค์กร โดยไม่ขัดกับภาพลักษณ์แบรนด์และเป้าหมายด้านการเงิน

ผลลัพธ์ของ South Pole คือการกลายเป็นพันธมิตรที่องค์กร B2B ขนาดใหญ่เชื่อมั่น ไม่ว่าจะเป็น Nestlé, Microsoft, IKEA หรือแม้แต่องค์กรภาครัฐในเอเชีย ความสำเร็จเหล่านี้เกิดจากจุดแข็งในฐานะบริษัทเล็กที่มีความรู้ลึกและตอบโจทย์ ESG ได้ในระดับที่วัดผลได้จริง
บทเรียนสำคัญจากกรณี South Pole คือ ในโลกของ ESG B2B ขนาดองค์กรไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาด แต่คือความสามารถในการเข้าใจโจทย์ของลูกค้าอย่างแท้จริง และนำเสนอโซลูชันที่สามารถนำไปใช้ได้จริง วัดผลได้ และสื่อสารกับตลาดทุนได้อย่างเป็นระบบ
สอบถามการเข้าร่วมงานหรือติดต่อเข้าร่วมคอมมูนิตี้ธุรกิจจาก O2O


เข้าร่วมคอมมูนิตี้ของเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Community : o2oforum
Line : @o2oforum
Subscribe : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220