TREND : AFMA กับแนวคิดยั่งยืนนิยม พาธุรกิจไทยยืนระดับโลก
คุณธิราช รุ่งเรืองกนกกุล ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการตลาด […]
คุณธิราช รุ่งเรืองกนกกุล ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการตลาดเพื่อเกษตรและอาหารแห่งเอเชียแปซิฟิก (AFMA) โดยองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า AFMA ได้ทำงานร่วมกับ UN เพื่อแก้ไขปัญหาความอดอยากยากจนของประชากรโลก ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ปัจจุบันแม้จะมีอาหารเพียงพอ แต่ยังมีผู้คนที่อดอยาก และยังมีวัตถุดิบอาหารที่เหลือทิ้ง หรือถูกทิ้งอยู่เป็นจำนวนมาก ดูเนื้อหาบน Line Today
AFMA เข้าไปทำงานกับบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลก ที่ผู้ซื้อของบริษัทเหล่านั้นต้องใช้มาตรฐานความยั่งยืนในการทำธุรกิจ
นอกจะเป็นการสูญเปล่าแล้ว ของเหลือทิ้งเหล่านี้ยังทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ส่งผลกระทบกับโลกอีกด้วย คุณค่าของการเกษตรและอาหารจึงเชื่อมโยงไปสู่ด้านอื่นๆมากมาย ความร่วมมือในการทำงานครั้งนี้ จะเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรได้มีตัวตน และผู้บริโภคได้รับทราบแหล่งที่มาของอาหารผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มห่วงโซ่คุณค่าอาหาร FOOD Visibility.org ซึ่งจะนำเสนอองค์ความรู้ และช่วยเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตอาหารยั่งยืนกับผู้บริโภค
โดย AFMA เราทำงานภายใต้วัตถุประสงค์หลัก 3 ข้อ
1.เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคนิคการตลาด ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร เกษตร ท่องเที่ยว น้ำ ทะเล หรือ ธรรมชาติ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
2.เพื่อสร้างกลไกระหว่างสมาชิก แลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ต่างๆ รวมถึงเป็นผู้ให้ข้อมูลด้าน SGD
3.สร้างพันธมิตรร่วมกับองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การระหว่างประเทศและภูมิภาคอื่นๆ ที่มีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายกัน
ยกตัวอย่างภารกิจอีกด้านของ AFMA – FAO Annex แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้ร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ เพื่อมหาสมุทร (UN Ocean Conference) แต่งตั้ง โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ดารา นักร้อง นักแสดงผู้อุทิศตัวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปกป้องทะเลและธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นทูตแห่งมหาสมุทรเพื่อความยั่งยืนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Sustainable Ocean Ambassador : SOA)
หรือ อีกโครงการที่ AFMA ร่วมกับองค์การสหประชาชาติ สนับสนุนอาหารยั่งยืน เน้นวัตถุดิบเกษตรท้องถิ่น ได้แต่งตั้ง เชฟชุมพล แจ้งไพร แห่งร้านอาหารไทย R.HAAN เป็นทูตอาหารของสมาคมการตลาดเพื่อเกษตรและอาหารแห่งเอเชียแปซิฟิก (AFMA) เพื่อสนับสนุนการผลิตอาหารยั่งยืน เป็นมิตรต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบโลกร้อน ยุติความอดอยากของประชากรโลก
ภาพที่เห็นชัดที่สุด คงหนีไม่พ้นช่วงปี 1900 – 2000 เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ มีการนำทรัพยากรมาใช้ในปริมาณที่สูงมากเกินกว่าธรรมชาติจะรับไหว จนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้น ในเชิงเศรษฐศาสตร์ มีการผูกขาดตลาด เกิดการกระจายรายได้ไม่เท่าเทียม และเกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจแก่อีกหลายบริษัท
และนอกจากนั้นในช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า โลกกำลังเผชิญกับปัญหารอบด้าน ทั้งการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ปัญหาสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และการแข่งขันที่สูงมากๆ คำว่า ยั่งยืน จึงเป็นคำตอบผุดขึ้นมากำหนดทิศทางของโลกใบใหม่ ซึ่งองค์การสหประชาชาติเชื่อว่าจะสามารถคลี่คลายปัญหาได้เป็นอย่างดี
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดแนวคิด การดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างสมดุลทั้งทางด้านเศรษฐกิจของบริษัท ความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อม และการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขในสังคม โดยไม่ได้หวังผลในระยะสั้น แต่เน้นผลระยะยาวในอนาคต ดังนั้น หากคนไทยต้องการส่งสินค้าออกไปทั่วโลก ธุรกิจจะมีการต้องปรับตัวโดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยปัจจัยสำคัญในการไปสู่ความยั่งยืนคือ นวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นหัวใจที่บริษัทในยุคใหม่ให้ความสำคัญ
โดยภายใต้การสนับสนุนขององค์การสหประชาชาติ ได้สนับสนุนหลักปฏิบัติสำหรับการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบโดยเน้นการนำ SDG (Sustainable Development Goals) ทั้ง 17 ข้อมาสร้างเป็นแนวทางให้แต่ละประเทศ ดำเนินการร่วมกัน โดยมีปัจจัยที่เชื่อมโยงกันใน 5 มิติ ได้แก่ การพัฒนา การดูแลสิ่งแวดล้อม การสร้างเศรษฐกิจและความมั่งคั่ง การสร้างสันติภาพและความยุติธรรม ความเป็นหุ้นส่วน การพัฒนาที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาและวิกฤตโลกที่เกิดขึ้น เป็นแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน โดยไม่ลิดรอนความสามารถในการตอบสนองความต้องการของคนรุ่นหลัง ดูเนื้อหาบน Line Today
ติดตามเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Community : o2oforum
Line : @o2oforum
Subscribe : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220, 0952156145